อธิบดีกรมศุลกากรเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ เช่น Shopee และ Lazada รวมถึงร้านค้าที่ตั้งอยู่ต่างประเทศ หลังจากเดิมมีการยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท แล้วเก็บเพียงภาษีมูลค่าเพิ่ม เบื้องต้นจะมีการนัดหารือกับแพลตฟอร์มออนไลน์ 2 แห่งคือ Shopee กับ Lazada ซึ่งจะมีการพูดคุยในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568
มาตรการใหม่ เริ่มเก็บภาษีนำเข้าตั้งแต่ 1 บาทแรก
กรมศุลกากรเรียกเก็บภาษีนำเข้ากับพัสดุจากต่างประเทศที่สั่งผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ สำหรับสินค้าที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไปจะถูกเรียกเก็บภาษีอากรนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) คาดว่าจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 โดยมีเป้าหมายหลักคือป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีและเพื่อสร้างความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการที่ขายสินค้าในไทย เหตุผลอีกด้านคือรัฐต้องการเพิ่มรายได้จากการนำเข้าเพื่อนำไปใช้ในงานสาธารณูปโภคและบริการพื้นฐาน
สินค้านำเข้าจะเสียภาษีหลักสองประเภทคือ ภาษีศุลกากรและภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อัตราภาษีศุลกากรขึ้นกับประเภทสินค้าและรหัสข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง บางประเภทอาจได้รับอัตราต่ำหรือยกเว้น ขณะที่ VAT จะเรียกเก็บตามอัตราที่กฎหมายกำหนด กรมศุลกากรจะอาศัยข้อมูลรายการสินค้าในการจัดประเภทเพื่อนำไปกำหนดอัตราภาษีที่เหมาะสม หากพบการแจ้งข้อมูลไม่ตรงตามความเป็นจริง อาจมีการตรวจสอบและเรียกเก็บเพิ่มเติมตามกฎหมาย

ผลกระทบต่อผู้ประกอบการและตลาดในประเทศ
ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าจากในประเทศ มีแนวโน้มที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการนี้ เพราะคู่แข่งจากต่างประเทศจะต้องปรับราคาสูงขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษี ส่งผลให้สินค้าที่ผลิตในประเทศสามารถแข่งขันได้ดีขึ้น แต่สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่พึ่งพาการนำเข้าสินค้าเล็กๆ เพื่อขายต่อ อาจเจอภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและกระทบต่อความคล่องตัวทางธุรกิจ อีกทั้งแพลตฟอร์มใหญ่อาจจะต้องปรับระบบหลังบ้านเพื่อรองรับการคิดอัตราภาษีนำเข้า ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายและกระบวนการทดสอบระบบก่อนเปิดใช้จริง
ข้อดีและข้อเสียของการเก็บภาษีนำเข้าสินค้า
ข้อดีคือสร้างความเป็นธรรมทางภาษีและเพิ่มรายได้ให้รัฐ โดยเดิมทีมีการเรียกเก็บภาษีเฉพาะสินค้าที่มีมูลค่า 1,500 บาทขึ้นไป เมื่อปรับให้คิดภาษีตั้งแต่สินค้าที่มีมูลค่า 1 บาทขึ้นไป อธิบดีกรมศุลกากรคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีรายได้เพิ่มขึ้นมาถึง 3,000 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ข้อดีอีกอย่างคือ ช่วยลดการนำเข้าสินค้าที่ผิดกฎหมาย และลดการนำเข้าสินค้าไม่ได้มาตรฐานมาขายในประเทศ
สำหรับข้อเสียสำคัญคือ การเก็บภาษีที่เพิ่มขึ้นจะเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการ อีกทั้งการจัดเก็บและตรวจสอบข้อมูลจำนวนมากต้องอาศัยระบบไอทีที่มีประสิทธิภาพ หากระบบไม่พร้อมอาจเกิดความล่าช้าหรือมีข้อผิดพลาดในการคำนวณภาษี
แนวทางที่ผู้ซื้อและผู้ขายควรเตรียมตัว
ผู้ซื้อควรตรวจเช็คยอดรวมก่อนกดยืนยันคำสั่งซื้อ เผื่อมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับค่าจัดส่งและภาษี ส่วนผู้ขายที่นำเข้าสินค้าควรเตรียมข้อมูลรายการสินค้าให้ครบถ้วนและถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังและค่าปรับ ทั้งนี้ผู้กำหนดนโยบายอาจพิจารณามาตรการชั่วคราว เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อผู้บริโภครายย่อยในช่วงเริ่มต้นที่กำลังปรับตัว
การเปลี่ยนแปลงนี้มีความหมายต่อระบบซื้อขายสินค้าออนไลน์อย่างชัดเจน ผู้ที่สั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศเป็นประจำควรวางแผนการซื้อให้รอบคอบ ส่วนของผู้ประกอบการก็ต้องรีบปรับระบบและกลยุทธ์ราคาเพื่อให้สอดคล้องกับกฎใหม่และรักษาความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจต่อไป